วิเคราะห์ QOF2/60 กับส่วนขาดที่ต้องเติม

***หลังจากQOF รอบแรก ใช้ข้อมูลจากส่วนกลาง

คงเหลือแค่จะเอาตัวรอดอย่างไรในQOF รอบที่ 2  ซึ่งใช้เกณฑ์เดียวกัน และดูระยะเวลาแล้วนับวันได้ ดังนั้น อย่างน้อยสิ่งใดที่เราจะช่วยกันได้ ก็คงต้องร่วมไม้ร่วมมือกัน เพราะภาพรวมคิดทั้งจังหวัดแล้วค่อยรายอำเภอ สุดท้าย ที่สถานบริการ >>> เชื่อว่าทุกแห่งเห็นปัญหา แต่วิธีการแก้ปัญหา คือ  ทำใครทำมัน ..(หรือเป่า) ไม่ทราบ ..แต่ที่รู้วันนี้ พยายามหาวิธีจัดการปัญหา QOF2/60 เท่าที่ "น่าจะทำได้" ดังนี้
...............
จากข้อมูล ของ QCData60 หมวดผลงานตามตัวชี้วัด

8 ตัวชี้วัด ในรอบที่ 2
สามารถดำเนินการได้ดังนี้

1.การคัดกรอง DM (แก้ไขด้วยการออกไปคัดกรองและคีย์ข้อมูลเพิ่มให้ครบ 90% >>> จบ)

2.การคัดกรอง HT (แก้ไขด้วยการออกไปคัดกรองและคีย์ข้อมูลเพิ่ม ให้ครบ 90 % >>> จบ)
3.วินิจฉัยป่วยรายใหม่จาก Dm?  น่าจะทำได้ ตามนี้
วิธีการ
   3.1.ให้คัดกรองในแฟ้ม NCDScreen >>เพิ่มคนที่ DTX เกิน 100
   3.2.ส่งข้อมูลแฟ้ม services ,ncdsreen,diag,drug ทุกวัน
   3.3.กรณีจะขึ้นทะเบียนรายใหม่ที่ได้จากCUP หรือ Qcdata (คืนข้อมูล) ควรดูให้ดีว่าวันเริ่มป่วยเป็นวันไหน อยู่ในปีงบประมาณนี้หรือปีงบประมาณที่ผ่านมา และสอบถามข้อมูลจริงจากผู้ป่วย หรือ อสม.ประจำหมู่บ้าน  
   3.4 ตัวอย่างแห่งที่ยังไม่ผ่าน
หมายเหตุ : สูตรคำนวณ  = ((ผลงานX100)/1.5)-เป้าหมาย
      ตัวอย่าง รพ.สต.ดงบัง = ((6X100)/1.5)-65
                                          = 335 
.............................................................................................
4.วินิจฉัยป่วยรายใหม่จาก HT?  น่าจะทำได้ ตามนี้
วิธีการ
   4.1.ให้คัดกรองในแฟ้ม NCDScreen >>เพิ่มคนที่ HTเกิน 140/90
   4.2.ส่งข้อมูลแฟ้ม services ,ncdsreen,diag,drug ทุกวัน
   4.3.การขึ้นทะเบียนรายใหม่ที่ได้จากCUP หรือ Qcdata (คืนข้อมูล) ดูให้ดีว่าเขาเริ่มป่วยวันไหน ออกไปสอบถามข้อมูลจริงจากผู้ป่วย ใช่ในปีงบประมาณนี้หรือเคยเป็นมานานแล้ว 
   4.4 ตัวอย่างแห่งที่ยังไม่ผ่าน
หมายเหตุ : สูตรคำนวณ  = ((ผลงานX100)/2.5)-เป้าหมาย
      ตัวอย่าง รพ.สต.สร้างแป้น = ((1X100)/2.5)-25
                                          = 15 
............................................................................................
5.RDU-RI
วิธีการ
   5.1.ให้วินิจฉัยเพิ่มด้วยรหัส J เช่น J00 แต่ห้ามจ่ายยา ABt 
   5.2. หากจำเป็นต้องจ่ายยา ABt ให้ใช้  รหัส K02.8 
   5.3.ส่งข้อมูลแฟ้ม services ,diag,drug ทุกวัน
   5.4.ตัวอย่างแห่งที่ยังไม่ผ่าน
หมายเหต: scpt หารายชื่อคนเพื่อคีย์เพิ่มรหัส Dx = 'J' จากผู้ป่วยที่เคยให้บริการอื่นไปแล้ว ดังนี้
..................................................
SET @start = '2017-02-01'; # วันเริ่มต้นรายงาน
SET @end = CURDATE(); # วันสิ้นสุดรายงาน

SELECT
vt.visitdate,
vt.pid,
ct.titlename,
p.fname,
p.lname,
vi.diagcode
FROM visit vt
INNER JOIN person p ON vt.pid = p.pid 
INNER JOIN ctitle ct ON p.prename=ct.titlecode
INNER JOIN visitdiag vi ON vt.visitno=vi.visitno
WHERE LEFT(vi.diagcode,1) not in ('j','s','t','v','w','x','y','u','z')
AND vi.visitno NOT IN (SELECT visitdrug.visitno FROM visitdrug
INNER JOIN cdrug ON visitdrug.drugcode=cdrug.drugcode WHERE cdrug.antibio = '1')
AND vt.visitdate BETWEEN @start AND @end
ORDER BY vt.visitdate DESC;
.................................................
@Scpt ตรวจดูจำนวน รหัส 'J' ไม่จ่ายยา Antibiotic ที่คีย์เพิ่มจากต้นเดือน กพ.60 - ปัจจุบัน (ได้เท่าไหร่แล้ว)..ตามนี้
......................................................
SET @start = '2017-02-01'; # วันเริ่มต้นรายงาน
SET @end = CURDATE(); # วันสิ้นสุดรายงาน

SELECT
vt.visitdate,
vt.pid,
ct.titlename,
p.fname,
p.lname,
vi.diagcode
FROM visit vt
INNER JOIN person p ON vt.pid = p.pid 
INNER JOIN ctitle ct ON p.prename=ct.titlecode
INNER JOIN visitdiag vi ON vt.visitno=vi.visitno
WHERE vi.diagcode LIKE 'j0%'
AND vi.visitno NOT IN (SELECT visitdrug.visitno FROM visitdrug
INNER JOIN cdrug ON visitdrug.drugcode=cdrug.drugcode WHERE cdrug.antibio = '1')
AND vt.visitdate BETWEEN @start AND @end
ORDER BY vt.visitdate DESC;
.....................................................

6.RDU-AD
วิธีการ
   6.1.ให้วินิจฉัยเพิ่มด้วยรหัส K52.1,  52.8 หรือ k52.9 แต่ห้ามจ่ายยา ABt 
   6.2.ส่งข้อมูลแฟ้ม services ,diag,drug ทุกวัน
   6.3 ตัวอย่างแห่งที่ยังไม่ผ่าน
หมายเหตุ: scpt ตรวจดูจำนวน รหัส K ไม่จ่ายยา Antibiotic ที่คีย์เพิ่มจากต้นเดือน กพ.60 - ปัจจุบัน (ได้เท่าไหร่แล้ว)..ตามนี้
...............................
SET @start = '2017-02-01'; # วันเริ่มต้นรายงาน
SET @end = CURDATE(); # วันสิ้นสุดรายงาน

SELECT
vt.visitdate,
vt.pid,
ct.titlename,
p.fname,
p.lname,
vi.diagcode
FROM visit vt
INNER JOIN person p ON vt.pid = p.pid
INNER JOIN ctitle ct ON p.prename=ct.titlecode
INNER JOIN visitdiag vi ON vt.visitno=vi.visitno
WHERE vi.diagcode IN ('k52.1','k52.8','k52.9')
AND vi.visitno NOT IN (SELECT visitdrug.visitno FROM visitdrug
INNER JOIN cdrug ON visitdrug.drugcode=cdrug.drugcode WHERE cdrug.antibio = '1')
AND vt.visitdate BETWEEN @start AND @end
ORDER BY vt.visitdate DESC;
..............................
7.LTC  ให้ดูตามโปรแกรม LTC2 และประสานขอดูข้อมูลจาก CUP นะจ๊ะ 
8.Diarrhea อันนี้ก็ลดการdiag ลง โดยเฉพาะ รหัสที่จะถูกส่งออก 506 ให้Diag ที่เข้าข่ายจริงๆ เท่านั้นนะจ๊ะ 

"""""""""""""""""""""""""""""""ส่งก่อน 31 มีนาคม 2560 >>เผื่อประมวลผลด้วยจ้า """"""""""""""""""""""""""""""





ไม่มีความคิดเห็น:

https://www.blogs

 kllgnsgkj[jtlm'oahd bfldkb'pdojgaojp mfigjdo;sjgaij misjgo;sjagijwo;